เทคโนโลยีความรัก...จากโลกที่มองไม่เห็นเงา
(Cyber Love Technology)
"คุณมีคู่รักหรือยังครับ" ผมหมายถึงสุภาพบุรุษหรือสุภาพสตรีที่อยู่ในฐานะสามีหรือภรรยาของท่าน รวมทั้งผู้ที่ยังเป็นแฟนกันอยู่ด้วยนะครับ ยินดีอย่างยิ่งถ้าประโยคข้างต้นสามารถเรียกรอยยิ้มที่มุมปากของท่านผู้อ่านได้ ลองคิดถึงตอนที่ท่านกำลังจีบกันใหม่ ๆ ซิครับ ท่านมีความสุขเพียงใดถ้าคู่รักของท่านก็มีใจเช่นกัน ความรักเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ รักกันเถอะครับชีวิตชุ่มชื่น
ความรักมันมีเทคโนโลยี ท่านผู้อ่านคงฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม อ่านก่อนครับ ที่ผมกล่าวเช่นนี้ใช่ว่าไร้สาระ ผมจะไม่ลงลึกว่าความรักคืออะไรนะครับเนื่องจากทุกท่าน "รักเป็น" กันอยู่แล้ว แต่ผมขอกล่าวถึงคำว่า "เทคโนโลยี" ในภาพกว้าง ๆ ต่อจากนั้นท่านผู้อ่านต้องใช้ลมหายของท่านผูกคำทั้งสองให้เป็นชีวิตของท่านเอง
มีคำสองคำซึ่งต่างความหมายกันมาประกอบกันเป็นคำเพียงหนึ่งคำ เป็นต้นทางของความหมายที่ยิ่งใหญ่และมีอิทธพลกับการดำรงชีวิตในยุคนี้ เช่นเดียวกับการเดินทางของหัวใจของคนสองคน ต่างเดินทางมาจากคนละที่เพื่อมารวมกันเป็นดวงใจเดียวกันและมีผลต่อต้นทางชีวิตคู่ของคนทั้งสอง
คำทั้งสองคือ"เทคโน" (Techno) และ "โลยี" (Logy) คำว่า "เทคโน" ตีความหมายง่าย ๆ คือ เทคนิคหรือวิธีการต่าง ๆ สำหรับการทำอะไรก็ได้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูง ประหยัด รวดเร็ว เหนื่อยน้อยลง
ยิ้มง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์หรือวัตถุที่มีราคาแพงใด ๆ ทั้งสิ้น พอนึกภาพออกหรือไม่ครับ ยกตัวอย่างเช่นตอนที่ท่านหรือคู่รักของท่านบอกว่า "ผมรักคุณ" คุณหรือเขามีเทคนิคอย่างไร เช่น คุกเข่ามือกุมมือแล้วทำตาเยิ้ม ๆ แบบในหนังสือการ์ตูนหรือมอบช่อดอกลิลลี่สีขาวหอมกรุ่นช่อโต ๆ พร้อมกับคำหวาน ๆ ฟังแล้วยากมากที่จะปฏิเสธ อะไรก็แล้วแต่ นั่นแหละครับ "เทคโน" ส่วนคำว่า "โลยี" หมายถึงความรู้ อาจเป็นความรู้เชิงวิชาการก็ได้ แต่ความรักต้องรู้เขารู้เรา รู้ทิศทาง รู้ความรู้สึก รู้ความต้องการ สารพัดรู้ครับบอกไม่ได้ สรุป "เทคโนโลยี" หมายความว่ารู้ที่จะใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อให้สิ่งที่ท่านทำสำเร็จ ลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีความรักของท่านเป็นอย่างไรครับ
ในยุคโลกไร้พรหมแดนนี้มีวิธีการต่าง ๆ มากมายที่อำนวยความสะดวกให้คนในยุคนี้สามารถสื่อสารกันได้อย่างไม่จำกัดระยะทาง เวลา เชื้อชาติและภูมิประเทศ ดังจะเห็นได้จากการเกิดเทคโนโลยีการสื่อสารมากมายเช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น ไหน ๆ กล่าวถึงอินเทอร์เน็ตแล้วขอแวะคุยซักหน่อย
คอมพิวเตอร์ถูกกล่าวขานให้เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความสามารถรอบด้านตั้งแต่เริ่มนำ
กระแสไฟฟ้าเข้ามาเป็นพลังงาน คนสร้างมันให้สามารถคิดเลขที่มีความซับซ้อนได้รวดเร็วอย่างที่คนไม่สามารถคิดได้ ต่อจากนั้นมันก็ถูกคนสร้างให้ทำอะไรได้อีกหลายอย่างมาก ใครจะคิดว่าคอมพิวเตอร์เมื่อผ่านมาหลายสิบปีจะเป็นเครื่องมือที่ทำให้คนมาแต่งงานกันได้ !
จากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความสามารถมาจนถึงระบบเครือข่ายที่ถูกพัฒนาให้คอมพิวเตอร์ที่ทำงานเพียงลำพัง ( Stand Alone ) สามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ซึ่งอยู่ที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้เหมือนกับเป็นเครื่องเดียวกัน ผู้ใช้งานไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ใช้งานอีกฝากหนึ่งของการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือคู่สนทนาจากการ Chat รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ขณะที่สนทนากันอยู่นั้นเงาของเขาหรือเธอทอดไปทางทิศใดหรือว่ามีเงาหรือไม่ หมายความว่าบุคคลที่กำลังสนทนาอยู่ด้วยนั้นกำลังสื่อสารในสิ่งที่เป็นจริงหรือเสแสร้งกันแน่ นี่คือ "โลกที่มองไม่เห็นเงา"
Chat เป็นเทคโนโลยีที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนองกระบวนการทางสังคมของมนุษย์ หนุ่ม - สาวจำนวนไม่น้อยมีโอกาสได้ Chat เพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้กับชีวิต คุณเคยคุยกับใครสักคนหนึ่งโดยบังเอิญแล้วรู้สึกถูกคอบ้างหรือไม่ครับ บรรยากาศเหมือนกันเลยครับ แต่ต่างจากการคุยทางวาจาก็คือ การ Chat นั้นใช้คอมพิวเตอร์คุยโดยการพิมพ์ที่แป้นพิมพ์เป็นหลัก เมื่อ Chat ต่อเนื่องสักระยะหนึ่ง ถูกใจกันก็สามารถสานความสัมพันธ์ต่อ จากไร้เงาก็พัฒนามาเป็นนัดแรกพบที่เห็นเงาจริง ๆ ถ้าระยะทางไม่เป็นอุปสรรค
Chat จึงเป็นทคโนโลยีสานความรักให้เขาและเธอเริ่มต้นความรักได้อย่างน่าทึ่ง
ในทางกลับกันมักจะได้ยินข่าวทางสื่อมวลชนอยู่เนือง ๆ กับการถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพที่ใช้การ Chat เป็นเส้นทางในการสร้างปัญหาให้กับสังคม เนื่องจากการอ่อนประสบการณ์ของผู้ใช้บางคนซึ่งสมัครใจเข้าไปอยู่ในโลกไร้เงาแบบรู้ตัว
เทคโนโลยีถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกสบายและความเจริญแห่งตนแม้เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงเพียงใด หากผู้ใช้ไม่คำนึงถึงความเหมาะสมแห่งตนแล้วก็ไม่อาจสร้างความยิ่งใหญ่ได้ และที่ร้ายแรงกว่านั้นหากผู้ใช้ "เทคโนโลยี" ไร้ซึ่งคุณธรรมและจริยธรรมแล้ว ความหายนะจะบังเกิดแก่ผู้ใช้เทคโนโลยีเองอย่างคาดไม่ถึง
เมธี พิกุลทอง