คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันสามารถรองรับการใช้งานที่มีประสิทธิภาพได้ประมาณ 5 ปี เนื่องจากว่า
1.มีการพัฒนาของ Hardware และ Software อย่างต่อเนื่องและรวดเร็วซึ่งต้องการความสามารถของเครื่องสูงขึ้น
2. วัสดุที่นำมาผลิตมีความบอบบางเพื่อลดน้ำหนักและขนาด
3.เกิดความเสื่อมทางกายภาพตามระยะเวลาการใช้งาน
4.ความต้องการภายในตัวผู้ใช้เร้าให้กระบวนการทางการตลาดเติบโต
คิดอะไรได้ก็เขียนไว้ใช้ประโยชน์ในโอกาสต่าง ๆ
วันอังคารที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554
ICT ในระบบสังคม
การสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่คนในสังคมสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ โดยใช้ผลผลิตที่ได้จากเชิงวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ จึงเป็นแนวทางที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องรีบดำเนินการ อีกทั้งต้องหาวิธีให้มุมมองทั้ง 3 มุมในฐานะที่เป็นต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบสังคมมาพบกันเพื่อสร้างความ สมดุลในทางสังคมอย่างยั่งยืนให้ได้
ICT ในมุมมองเชิงวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์
เป็น ความคิดเชิงระบบซึ่งว่าด้วยการหาเหตุผลมาอ้างอิง ผลลัพธ์ที่ได้รับจะมีคำตอบที่ค่อนข้างแน่นอน เช่น ผิด / ถูก , จริง/เท็จ ซึ่งเป็นแนวคิดกับการใช้ในเครื่องจักรต่าง ๆ ดังนั้นการมองทิศทางของ ICT ในมุมมองนี้มักจะเน้นไปที่การสร้างให้เกิดเครื่องมือ เครื่องจักรอำนวยความสะดวกให้แก่มวลมนุษย์ชาติ ในฐานะ “ผู้ผลิต” บางครั้งอาจไม่จำเป็นต้องมองว่าเกิดผลกระทบใดบ้างหลังจากที่เกิดเครื่องมือ นั้นขึ้นมาแล้ว และตั้งหน้าตั้งตาที่จะคิดค้น พัฒนาให้เกิดความเจริญเชิงวัตถุอย่างต่อเนื่อง
ICT ในมุมมองเชิงทุนนิยม
แนว คิดในมุมมองนี้เป็นการนำผลผลิตที่ได้จากเชิงวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ เข้ามาต่อยอดเพื่อเล็งผลจากการบริโภคให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และผลสุดท้ายคือการประสบความสำเร็จเป็นตัวเลขผลกำไร หลังจากที่ได้ผลผลิตเชิงวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์มาอยู่ในมือแล้ว เป็นหน้าที่ของกลุ่มนี้จะต้องเร้าความสนใจให้แก่ผู้บริโภคตอบสนองสินค้า อย่างรุนแรง ทั้งทางตรงและทางอ้อมตามกลไกทางการตลาด อาจมิได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแก่ผู้บริโภคปลายทาง นั่นเป็นแนวคิดเชิงทุนนิยมหรืออาจเรียกว่า “พ่อค้าคนกลาง”
ICT ในมุมมองเชิงสังคมศาสตร์
แนวคิดหลักของกลุ่มนี้คือการนำแนวคิดของทั้ง 2 มุม มองข้างต้นมาสังเคราะห์เป็นพฤติกรรม การตอบสนองตามสิ่งเร้าที่ได้รับจากมุมมองเชิงทุนนิยมเป็นพฤติกรรมของผู้ใช้ ปลายทางซึ่งรวมตัวกันอยู่ในสังคมในฐานะของ “ผู้บริโภค” ความต้องการเสพ ICT มีอย่างไร้ขีดจำกัด จากความต้องการดังกล่าวเป็นแหล่งข้อมูลในการติดตามทิศทางการเคลื่อนไหว ไม่ต่างไปจากการตกเป็นสาวกของระบบทุนนิยม
ความสะดวกสบาย ความง่าย ความสุข ความบันเทิงของผู้ใช้ปลายทางไม่มีทิศทางที่แน่นอน เปิดโอกาสให้ นักระดมทุนนิยมต่าง ๆ เข้าจับจองพื้นที่สำหรับตน หวังผลกำไรและครอบครองชีวิตของคนเหล่านี้ หากคนในสังคมอ่อนแอ ขาดประสบการและรู้เท่าทัน หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องตกเป็นสาวกอย่างจำยอม และในเวลาเดียวกันนักวิทยาศาสตร์ในฐานะผู้ผลิตก็จับตามองอยู่ว่าผู้บริโภค ต้องการอะไร
ดังนั้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่คนในสังคมสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ โดยใช้ผลผลิตที่ได้จากเชิงวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ จึงเป็นแนวทางที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องรีบดำเนินการ อีกทั้งต้องหาวิธีให้มุมมองทั้ง 3 มุมในฐานะที่ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบสังคมมาพบกันเพื่อสร้างความสมดุลในทางสังคมอย่างยั่งยืนให้ได้
ท่านผู้อ่านมีความเห็นสามารถร่วมอภิปรายได้นะครับ เพื่อแบ่งปันความรู้
ICT ในมุมมองเชิงวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์
เป็น ความคิดเชิงระบบซึ่งว่าด้วยการหาเหตุผลมาอ้างอิง ผลลัพธ์ที่ได้รับจะมีคำตอบที่ค่อนข้างแน่นอน เช่น ผิด / ถูก , จริง/เท็จ ซึ่งเป็นแนวคิดกับการใช้ในเครื่องจักรต่าง ๆ ดังนั้นการมองทิศทางของ ICT ในมุมมองนี้มักจะเน้นไปที่การสร้างให้เกิดเครื่องมือ เครื่องจักรอำนวยความสะดวกให้แก่มวลมนุษย์ชาติ ในฐานะ “ผู้ผลิต” บางครั้งอาจไม่จำเป็นต้องมองว่าเกิดผลกระทบใดบ้างหลังจากที่เกิดเครื่องมือ นั้นขึ้นมาแล้ว และตั้งหน้าตั้งตาที่จะคิดค้น พัฒนาให้เกิดความเจริญเชิงวัตถุอย่างต่อเนื่อง
ICT ในมุมมองเชิงทุนนิยม
แนว คิดในมุมมองนี้เป็นการนำผลผลิตที่ได้จากเชิงวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ เข้ามาต่อยอดเพื่อเล็งผลจากการบริโภคให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และผลสุดท้ายคือการประสบความสำเร็จเป็นตัวเลขผลกำไร หลังจากที่ได้ผลผลิตเชิงวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์มาอยู่ในมือแล้ว เป็นหน้าที่ของกลุ่มนี้จะต้องเร้าความสนใจให้แก่ผู้บริโภคตอบสนองสินค้า อย่างรุนแรง ทั้งทางตรงและทางอ้อมตามกลไกทางการตลาด อาจมิได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแก่ผู้บริโภคปลายทาง นั่นเป็นแนวคิดเชิงทุนนิยมหรืออาจเรียกว่า “พ่อค้าคนกลาง”
ICT ในมุมมองเชิงสังคมศาสตร์
แนวคิดหลักของกลุ่มนี้คือการนำแนวคิดของทั้ง 2 มุม มองข้างต้นมาสังเคราะห์เป็นพฤติกรรม การตอบสนองตามสิ่งเร้าที่ได้รับจากมุมมองเชิงทุนนิยมเป็นพฤติกรรมของผู้ใช้ ปลายทางซึ่งรวมตัวกันอยู่ในสังคมในฐานะของ “ผู้บริโภค” ความต้องการเสพ ICT มีอย่างไร้ขีดจำกัด จากความต้องการดังกล่าวเป็นแหล่งข้อมูลในการติดตามทิศทางการเคลื่อนไหว ไม่ต่างไปจากการตกเป็นสาวกของระบบทุนนิยม
ความสะดวกสบาย ความง่าย ความสุข ความบันเทิงของผู้ใช้ปลายทางไม่มีทิศทางที่แน่นอน เปิดโอกาสให้ นักระดมทุนนิยมต่าง ๆ เข้าจับจองพื้นที่สำหรับตน หวังผลกำไรและครอบครองชีวิตของคนเหล่านี้ หากคนในสังคมอ่อนแอ ขาดประสบการและรู้เท่าทัน หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องตกเป็นสาวกอย่างจำยอม และในเวลาเดียวกันนักวิทยาศาสตร์ในฐานะผู้ผลิตก็จับตามองอยู่ว่าผู้บริโภค ต้องการอะไร
ดังนั้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่คนในสังคมสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ โดยใช้ผลผลิตที่ได้จากเชิงวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ จึงเป็นแนวทางที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องรีบดำเนินการ อีกทั้งต้องหาวิธีให้มุมมองทั้ง 3 มุมในฐานะที่ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบสังคมมาพบกันเพื่อสร้างความสมดุลในทางสังคมอย่างยั่งยืนให้ได้
ท่านผู้อ่านมีความเห็นสามารถร่วมอภิปรายได้นะครับ เพื่อแบ่งปันความรู้
วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
สาเหตุที่เด็กมีโอกาสเสพสื่อที่ไม่พึงประสงค์
สาเหตุที่เด็กมีโอกาสเสพสื่อที่ไม่พึงประสงค์
- ผู้ปกครองแสดงแบบอย่างการดำรงชีวิตประจำวัน
ที่ปราศจากการควบคุมให้เด็กเห็น - ผู้ปกครองปล่อยให้เด็กมีเวลาว่างมากเกินไป
- ผู้ปกครองละเลยการกวดขันวินัยให้แก่เด็ก
- ผู้ปกครองละเลยการปลูกฝังวินัยในตนเองให้แก่เด็ก
- ผู้ปกครองละเลยการอธิบายสิ่งที่เป็นผลดี – ผลเสีย
ที่สามารถเข้าใจได้ง่ายให้แก่เด็ก - ผู้ปกครองอนุญาตให้เด็กครอบครองวัตถุที่สามารถ
บรรจุสื่อที่มีความรุนแรงไว้ใช้เป็นส่วนตัว - ผู้ปกครองไม่มีความรู้เพียงพอในการสร้างภูมิคุ้มกัน
ชีวิตของเด็ก - ผู้ปกครองไม่เคยชี้นำหรือพาเด็กไปในสถานที่ที่
จรรโลงชีวิต - ผู้ปกครองตาม Lifestyle ของเด็กไม่ทัน
- สังคมนอกบ้านของเด็กเป็นสังคมที่ถูกมอมเมา
จากกระแสความรุนแรง
วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
Cyber Love Technology
เทคโนโลยีความรัก...จากโลกที่มองไม่เห็นเงา
(Cyber Love Technology)
"คุณมีคู่รักหรือยังครับ" ผมหมายถึงสุภาพบุรุษหรือสุภาพสตรีที่อยู่ในฐานะสามีหรือภรรยาของท่าน รวมทั้งผู้ที่ยังเป็นแฟนกันอยู่ด้วยนะครับ ยินดีอย่างยิ่งถ้าประโยคข้างต้นสามารถเรียกรอยยิ้มที่มุมปากของท่านผู้อ่านได้ ลองคิดถึงตอนที่ท่านกำลังจีบกันใหม่ ๆ ซิครับ ท่านมีความสุขเพียงใดถ้าคู่รักของท่านก็มีใจเช่นกัน ความรักเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ รักกันเถอะครับชีวิตชุ่มชื่น
ความรักมันมีเทคโนโลยี ท่านผู้อ่านคงฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม อ่านก่อนครับ ที่ผมกล่าวเช่นนี้ใช่ว่าไร้สาระ ผมจะไม่ลงลึกว่าความรักคืออะไรนะครับเนื่องจากทุกท่าน "รักเป็น" กันอยู่แล้ว แต่ผมขอกล่าวถึงคำว่า "เทคโนโลยี" ในภาพกว้าง ๆ ต่อจากนั้นท่านผู้อ่านต้องใช้ลมหายของท่านผูกคำทั้งสองให้เป็นชีวิตของท่านเอง
มีคำสองคำซึ่งต่างความหมายกันมาประกอบกันเป็นคำเพียงหนึ่งคำ เป็นต้นทางของความหมายที่ยิ่งใหญ่และมีอิทธพลกับการดำรงชีวิตในยุคนี้ เช่นเดียวกับการเดินทางของหัวใจของคนสองคน ต่างเดินทางมาจากคนละที่เพื่อมารวมกันเป็นดวงใจเดียวกันและมีผลต่อต้นทางชีวิตคู่ของคนทั้งสอง
คำทั้งสองคือ"เทคโน" (Techno) และ "โลยี" (Logy) คำว่า "เทคโน" ตีความหมายง่าย ๆ คือ เทคนิคหรือวิธีการต่าง ๆ สำหรับการทำอะไรก็ได้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูง ประหยัด รวดเร็ว เหนื่อยน้อยลง
ยิ้มง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์หรือวัตถุที่มีราคาแพงใด ๆ ทั้งสิ้น พอนึกภาพออกหรือไม่ครับ ยกตัวอย่างเช่นตอนที่ท่านหรือคู่รักของท่านบอกว่า "ผมรักคุณ" คุณหรือเขามีเทคนิคอย่างไร เช่น คุกเข่ามือกุมมือแล้วทำตาเยิ้ม ๆ แบบในหนังสือการ์ตูนหรือมอบช่อดอกลิลลี่สีขาวหอมกรุ่นช่อโต ๆ พร้อมกับคำหวาน ๆ ฟังแล้วยากมากที่จะปฏิเสธ อะไรก็แล้วแต่ นั่นแหละครับ "เทคโน" ส่วนคำว่า "โลยี" หมายถึงความรู้ อาจเป็นความรู้เชิงวิชาการก็ได้ แต่ความรักต้องรู้เขารู้เรา รู้ทิศทาง รู้ความรู้สึก รู้ความต้องการ สารพัดรู้ครับบอกไม่ได้ สรุป "เทคโนโลยี" หมายความว่ารู้ที่จะใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อให้สิ่งที่ท่านทำสำเร็จ ลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีความรักของท่านเป็นอย่างไรครับ
คำทั้งสองคือ"เทคโน" (Techno) และ "โลยี" (Logy) คำว่า "เทคโน" ตีความหมายง่าย ๆ คือ เทคนิคหรือวิธีการต่าง ๆ สำหรับการทำอะไรก็ได้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูง ประหยัด รวดเร็ว เหนื่อยน้อยลง
ยิ้มง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์หรือวัตถุที่มีราคาแพงใด ๆ ทั้งสิ้น พอนึกภาพออกหรือไม่ครับ ยกตัวอย่างเช่นตอนที่ท่านหรือคู่รักของท่านบอกว่า "ผมรักคุณ" คุณหรือเขามีเทคนิคอย่างไร เช่น คุกเข่ามือกุมมือแล้วทำตาเยิ้ม ๆ แบบในหนังสือการ์ตูนหรือมอบช่อดอกลิลลี่สีขาวหอมกรุ่นช่อโต ๆ พร้อมกับคำหวาน ๆ ฟังแล้วยากมากที่จะปฏิเสธ อะไรก็แล้วแต่ นั่นแหละครับ "เทคโน" ส่วนคำว่า "โลยี" หมายถึงความรู้ อาจเป็นความรู้เชิงวิชาการก็ได้ แต่ความรักต้องรู้เขารู้เรา รู้ทิศทาง รู้ความรู้สึก รู้ความต้องการ สารพัดรู้ครับบอกไม่ได้ สรุป "เทคโนโลยี" หมายความว่ารู้ที่จะใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อให้สิ่งที่ท่านทำสำเร็จ ลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีความรักของท่านเป็นอย่างไรครับ
ในยุคโลกไร้พรหมแดนนี้มีวิธีการต่าง ๆ มากมายที่อำนวยความสะดวกให้คนในยุคนี้สามารถสื่อสารกันได้อย่างไม่จำกัดระยะทาง เวลา เชื้อชาติและภูมิประเทศ ดังจะเห็นได้จากการเกิดเทคโนโลยีการสื่อสารมากมายเช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น ไหน ๆ กล่าวถึงอินเทอร์เน็ตแล้วขอแวะคุยซักหน่อย
คอมพิวเตอร์ถูกกล่าวขานให้เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความสามารถรอบด้านตั้งแต่เริ่มนำ
กระแสไฟฟ้าเข้ามาเป็นพลังงาน คนสร้างมันให้สามารถคิดเลขที่มีความซับซ้อนได้รวดเร็วอย่างที่คนไม่สามารถคิดได้ ต่อจากนั้นมันก็ถูกคนสร้างให้ทำอะไรได้อีกหลายอย่างมาก ใครจะคิดว่าคอมพิวเตอร์เมื่อผ่านมาหลายสิบปีจะเป็นเครื่องมือที่ทำให้คนมาแต่งงานกันได้ !
กระแสไฟฟ้าเข้ามาเป็นพลังงาน คนสร้างมันให้สามารถคิดเลขที่มีความซับซ้อนได้รวดเร็วอย่างที่คนไม่สามารถคิดได้ ต่อจากนั้นมันก็ถูกคนสร้างให้ทำอะไรได้อีกหลายอย่างมาก ใครจะคิดว่าคอมพิวเตอร์เมื่อผ่านมาหลายสิบปีจะเป็นเครื่องมือที่ทำให้คนมาแต่งงานกันได้ !
จากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความสามารถมาจนถึงระบบเครือข่ายที่ถูกพัฒนาให้คอมพิวเตอร์ที่ทำงานเพียงลำพัง ( Stand Alone ) สามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ซึ่งอยู่ที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้เหมือนกับเป็นเครื่องเดียวกัน ผู้ใช้งานไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ใช้งานอีกฝากหนึ่งของการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือคู่สนทนาจากการ Chat รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ขณะที่สนทนากันอยู่นั้นเงาของเขาหรือเธอทอดไปทางทิศใดหรือว่ามีเงาหรือไม่ หมายความว่าบุคคลที่กำลังสนทนาอยู่ด้วยนั้นกำลังสื่อสารในสิ่งที่เป็นจริงหรือเสแสร้งกันแน่ นี่คือ "โลกที่มองไม่เห็นเงา"
Chat เป็นเทคโนโลยีที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนองกระบวนการทางสังคมของมนุษย์ หนุ่ม - สาวจำนวนไม่น้อยมีโอกาสได้ Chat เพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้กับชีวิต คุณเคยคุยกับใครสักคนหนึ่งโดยบังเอิญแล้วรู้สึกถูกคอบ้างหรือไม่ครับ บรรยากาศเหมือนกันเลยครับ แต่ต่างจากการคุยทางวาจาก็คือ การ Chat นั้นใช้คอมพิวเตอร์คุยโดยการพิมพ์ที่แป้นพิมพ์เป็นหลัก เมื่อ Chat ต่อเนื่องสักระยะหนึ่ง ถูกใจกันก็สามารถสานความสัมพันธ์ต่อ จากไร้เงาก็พัฒนามาเป็นนัดแรกพบที่เห็นเงาจริง ๆ ถ้าระยะทางไม่เป็นอุปสรรค
Chat จึงเป็นทคโนโลยีสานความรักให้เขาและเธอเริ่มต้นความรักได้อย่างน่าทึ่ง
Chat จึงเป็นทคโนโลยีสานความรักให้เขาและเธอเริ่มต้นความรักได้อย่างน่าทึ่ง
ในทางกลับกันมักจะได้ยินข่าวทางสื่อมวลชนอยู่เนือง ๆ กับการถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพที่ใช้การ Chat เป็นเส้นทางในการสร้างปัญหาให้กับสังคม เนื่องจากการอ่อนประสบการณ์ของผู้ใช้บางคนซึ่งสมัครใจเข้าไปอยู่ในโลกไร้เงาแบบรู้ตัว
เทคโนโลยีถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกสบายและความเจริญแห่งตนแม้เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงเพียงใด หากผู้ใช้ไม่คำนึงถึงความเหมาะสมแห่งตนแล้วก็ไม่อาจสร้างความยิ่งใหญ่ได้ และที่ร้ายแรงกว่านั้นหากผู้ใช้ "เทคโนโลยี" ไร้ซึ่งคุณธรรมและจริยธรรมแล้ว ความหายนะจะบังเกิดแก่ผู้ใช้เทคโนโลยีเองอย่างคาดไม่ถึง
เมธี พิกุลทอง
E-Training นวัตกรรมเพื่อการพัฒนา
E-Training นวัตกรรมเพื่อการพัฒนา
เมธี พิกุลทอง สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
http://www.pigul.net
รถยนต์ขับเคลื่อนไปข้างหน้า ด้วยความเร็ว 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันช่างรวดเร็ว รุนแรง และน่าสะพรึงกลัว หากรถยนต์คันนี้ถูกออกแบบด้วยวิธีการคิดที่แยบยล ทุกส่วนของรถได้รับการใส่กลไกที่มีการป้องกันแรงเสียดทาน การสั่นสะเทือน ลู่ลมอย่างน่าอัศจรรย์ใจ และอีกหลาย ๆ ประการที่จะทำให้รถคันนี้ไม่ฉีกขาดเป็นชิ้น ๆ บนถนนที่ทอดยาวไกลสุดสายตา ผู้เขียนเชื่อว่าเราสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องจักรชิ้นนี้ได้อย่างน่าประทับใจ
สุดยอดยนตร์กรรมได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นมารับใช้มนุษย์ชาติ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่พาร่างกายให้ย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งตามแต่ใจจะปรารถนา แต่สิ่งที่ต้องย้อนถามผู้ขับขี่คือ ท่านมีความพร้อมที่จะรับมือกับยนตร์กรรมคันนี้แล้วเพียงใด ท่านรู้หรือไม่ว่าการเดินทางที่ 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมงมีวิธีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ท่านจะหายใจอย่างไร ท่านจะวางสรีระอย่างไร ท่านจะบอกคนข้าง ๆ ของท่านอย่างไรถ้าหาก พลาด
ท่านผู้อ่านคงมีคำตอบอยู่ในใจเกี่ยวกับเรื่องที่ปรากฏในย่อหน้าข้างต้น แต่ในชีวิตการทำงานจริงนั้น องค์กรก็เปรียบได้กับรถยนต์คันนั้น มันถูกสร้างขึ้นมาให้ดำเนินกิจการต่าง ๆ โดยมีมนุษย์เป็นผู้ควบคุมให้เดินทางไปข้างหน้าได้อย่างปลอดภัย อาจมีอุปสรรคบ้าง แต่มิได้หมายความว่ากิจการจะยุติลงอย่างน่าเสียดาย โดยปราศจากการเตรียมการป้องกันและแก้ปัญหา
บทความที่ท่านกำลังอ่านอยู่นี้จะพาท่านเดินทางไปสู่เป้าหมายที่ว่า เรามีวิธีการรับมือกับสภาวะต่าง ๆ ของการดำเนินกิจการขององค์กรโดยมีมนุษย์เป็นผู้ควบคุมทิศทางอย่างไร อาจกล่าวได้ว่า "ทรัพยากรมนุษย์เป็นหัวใจในการเดินทางของอุตสาหกรรม " ดังนั้นเราต้องให้ความสำคัญกับหัวใจของอุตสาหกรรม ซึ่งฝังตัวอยู่ในส่วนต่าง ๆ แล้วอะไรล่ะเป็นวิธีการที่เหมาะสม คำตอบคือ การพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
การพัฒนาหัวใจในการเดินทางของอุตสาหกรรมนั้นมีหลากหลายวิธีอาทิเช่น การสัมมนา (Seminar) การศึกษาจากกรณีตัวอย่าง (Case Study) การสาธิต (Demonstration) การระดมสมอง (Brain Storming) การประชุมอภิปราย (Conferencing) การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ (Work Shop) เป็นต้น ซึ่งการจะเลือกใช้วิธีการใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็น ระยะเวลา สถานการณ์ที่องค์กรต้องการ กิจกรรมเหล่านี้รวมเรียกว่า การพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ (เสน่ห์ : 2541)
ในฐานะที่ผู้เขียนทำหน้าที่นักเทคโนโลยีการศึกษาซึ่งมีหน้าที่ในการจัดการให้เกิดการศึกษาด้วยวิธีการต่าง ๆ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การพัฒนาหัวใจในการเดินทางของอุตสาหกรรมนั้นก็ถือเป็นภารกิจที่ก่อให้เกิดการศึกษาเช่นเดียวกับการศึกษาทั้งในระบบโรงเรียน นอกระบบโรงเรียนและตามอัธยาศัย เพียงแต่จัดให้เกิดการศึกษาเพื่อนำความรู้ไปใช้ในสถานประกอบการ และแทนที่ผู้รับการศึกษาจะเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ก็เป็นผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบการนั้น ๆ
โดยปกติการพัฒนาหัวใจในการเดินทางของอุตสาหกรรมมักทำกันอยู่ 3 แบบ (ธนิศ : 2537) ได้แก่
- การปฐมนิเทศ เป็นการฝึกอบรมบุคลากรใหม่ขององค์กรให้ทราบถึงนโยบาย โครงสร้างการบริหาร กฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อการสร้างเข้าใจให้ตรงกันและมีทัศนคติที่ดีแก่องค์กร รวมทั้งการพาชมส่วนงานต่าง ๆ
- การฝึกอบรมในขณะปฏิบัติงาน หลังจากที่ได้รับการบรรจุ แต่งตั้งให้ปฏิบัติงานในองค์กรแล้ว เมื่อปฏิบัติงานไปได้ระยะหนึ่ง จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาความรู้ ทักษะให้แก่ผู้ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง อาจอยู่ในลักษณะของการเรียนงานที่มีความยาก ซับซ้อนมากขึ้นจากรุ่นพี่ เพื่อสร้างความพร้อมตลอดเวลาเนื่องจากการพัฒนาของเทคโนโลยี
- การหมุนเวียนงานเป็นการไปฝึก ณ หน่วยงานอื่น ๆ ที่มีความทันสมัยกว่า เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ปฏิบัติงานมีความรอบรู้ในงาน มีทักษะในการควบคุมและจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ได้ดี
ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใดก็ตามที่ทำให้ผู้ปฏิบัติงานมีความรู้ในงานมากขึ้น มีเจตนคติที่ดีต่องานและองค์กร มีทักษะการทำงานที่คงทน ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้บริหารองค์กรต่างปรารถนาให้เกิดแก่บุคลากรในองค์กรทั้งสิ้น
ในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทกับทุกวงการ โดยเฉพาะวงการอุตสาหกรรมนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องก้าวไปพร้อมกับเทคโนโลยี ดังนั้นจึงมีเทคนิคการพัฒนาหัวใจในการเดินทางของอุตสาหกรรมโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อน หลายท่านคุ้นเคยกับคำว่า E เป็นอย่างดี จากการใช้งานเครื่องมือสื่อสารหรือเครื่องใช้สำนักงานอิเล็คทรอนิคส์ อาทิเช่น E-mail , E-office , E-Commerce , EDI (Electronic Data Interchange) เป็นต้น ใช่แล้ว E ย่อมาจากคำว่า "Electronic" หมายถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่ใช้อุปกรณ์สื่อสารอิเล็คทรอนิคส์เข้ามาเป็นสื่อในการทำงาน ผู้เขียนขอกล่าวเกี่ยวกับอักษรตัว E สักเล็กน้อยเพื่อความเป็นรูปธรรมสำหรับผู้อ่านบางท่าน
ยกตัวอย่างเช่น ในการสื่อสารระหว่างองค์กรนั้นเมื่อย้อนหลังไปสัก 20 ปี เราใช้โทรศัพท์ในการติดต่อ ประสานงานระหว่างหน่วยงาน ระหว่างโรงงาน ส่งผลให้ค่าใช้โทรศัพท์มีราคาสูง แต่พอเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาท เราก็ใช้วิธีการประสานงานผ่าน Instant Message เช่น MSN ซึ่งสามารถคุยกันได้ทั้งการพิมพ์ตัวอักษร เสียงพูด เสียงหัวเราะ มองเห็นหน้ากันได้ด้วย ที่สำคัญสามารถส่งหรือแลกเปลี่ยนไฟล์เอกสารระหว่างสำนักงานหรือระหว่างหน่วยงานได้อย่างรวดเร็ว ในการออกเอกสารใบสั่งซื้อ ใบส่งของ หรือเอกสารพิธีการต่าง ๆ ก็เช่นเดียวกัน ในปัจจุบันมีแบบฟอร์มมาตรฐานที่เรียกว่าใบกำกับตู้อิเล็กทรอนิกส์ (E-CONTAINER ) ที่ใช้งานร่วมกันหลาย ๆ หน่วยงาน (ธนิต,
http://www.tanitsorat.com) ซึ่ง Online ตลอดเวลา สามารถติดตามสินค้าได้ตลอดเวลาว่าขณะนี้เดินทางอยู่ส่วนใดของโลกและสามารถส่งสินค้าได้ทันเวลาที่ตกลงกันได้หรือไม่ และติดปัญหาใด จากตัวอย่างข้างต้นผู้ปฏิบัติงานจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อสามารถใช้งานได้ดีแล้วมักจะรู้สึกสนุกในการทำงาน เป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดได้ระดับหนึ่ง
ตัวอย่างที่ 2 เมื่อมีการนำสำนักงานอัตโนมัติเข้ามาใช้ในการทำงาน โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจำเป็นต้องฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด หากมีปัญหาสุดความสามารถที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ จุดนั้นจะแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง องค์กรก็ต้องจัดเตรียมผู้ช่วย Online (Help desk) ไว้รับมือกับปัญหาอย่างทันท่วงทีโดยการ Hack เข้ามาแก้ไขหรือควบคุมสั่งการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีปัญหาจากระยะไกล (Remote Control) ให้ทำงานได้ตามเดิม โดยใช้คุณสมบัติของ Malware (คำสั่งที่คอมพิวเตอร์ทั่วไปไม่ต้องการเช่น ไวรัส , Spyware ) เข้ามาใช้ประโยชน์
จากทั้ง 2 ตัวอย่างนั้นเป็นวิธีการที่ทุกวงการได้นำมาใช้อย่างกว้างขวางและประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว แต่ก็ยังมีคำถามต่อเนื่องว่า แล้วเราจะฝึกอบรมให้แก่ผู้ปฏิบัติงานได้อย่างไร หรือผู้บริหารจะใช้อะไรมาช่วยให้การอบรมเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น คำตอบคือ เราต้องมีเครื่องมือ การใช้ E เข้ามาช่วยนั้นเป็นวิธีการโดยมีแนวคิดว่า "ทำอย่างไรจึงจะสามารถจัดประสบการณ์ทางอาชีพให้แก่ผู้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวดเร็วที่สุด ประหยัดที่สุด" โดยเรียกเทคนิคนี้ว่า E-Training
E-Training หมายถึง กระบวนการฝึกอบรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นกระบวนการจัดการฝึกทักษะ เพิ่มพูนสาระความรู้ ที่เน้นให้ผู้เข้ารับการอบรมนั้นเรียนรู้ด้วยตนเอง ผู้เข้าอบรมมีอิสระในการเข้าศึกษา เรียนรู้ตามเวลา โอกาสที่ผู้ฝึกอบรมต้องการ โดยเนื้อหาขององค์ความรู้จะถูกออกแบบมาให้ศึกษาเรียนรู้ได้โดยง่าย ในรูปแบบมัลติมีเดีย ซึ่งประกอบด้วยสื่อที่เป็นข้อความ รูปภาพ หรืออาจมีเสียง รวมถึงภาพเคลื่อนไหว (นัทธี, เข้าถึงได้จาก http://hrm.siamhrm.com)
ในระบบ E-Training ผู้เข้าฝึกอบรมจะมีวิทยากรที่ปรึกษาประจำรายวิชาคอยให้คำปรึกษาในการอบรมตลอดหลักสูตร นอกจากนี้ผู้เข้าอบรมยังสามารถติดต่อปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้เช่นเดียวกับการอบรมในห้องปกติ โดยอาศัยเครื่องมือการติดต่อสื่อสารที่ทันสมัย สำหรับทุกคนที่สามารถศึกษาและเรียนรู้ได้ทุกเวลา และทุกสถานที่ (สถาบันพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยภาคเหนือ , http://www.northeducation.ac.th/etraining/index.php)
จากความหมายข้างต้นผู้อ่านก็พอจะรู้ได้ว่า E-Training เป็นการฝึกอบรมผ่านสื่อที่ไม่ใช่ตัวบุคคลโดยตรง แต่เป็นเครื่องมือสื่อสารอิเล็คทรอนิคส์ซึ่งมีการควบคุมกระบวนการฝึกโดยวิทยากร ซึ่งอาจไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทยก็ได้ ซึ่งอาจกล่าวถึงข้อดีของ E-Training ได้ดังนี้
- สามารถควบคุมลำดับในของการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สามารถประเมินผลได้อย่างตรงไปตรงมา
- ผู้รับการอบรมสามารถเข้าเรียนรู้ได้โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่
- E - Training จะสามารถตอบสนองความต้องการในการพัฒนาตนเองได้อย่างทั่วถึง
- ผู้รับการอบรม ซึ่งจะต้องค้นคว้า ฝึกทักษะด้วยตนเอง เป็นหลัก
- ประหยัดเวลาและงบประมาณ
- ห้องปฏิบัติการ Multimedia เพื่อการฝึกภาษา สามารถเก็บคำตอบและวิเคราะห์คำตอบของผู้เรียนได้ เครื่องมือชิ้นนี้เหมาะสมมากสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการความสามารถทางด้านภาษาของผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะองค์กรที่มีหน่วยงานหลักอยู่ต่างประเทศหรือต้องประสานงานกับต่างประเทศ
- วีดิทัศน์เพื่อการฝึกอบรม เป็นสื่ออิเล็คทรอนิคส์ที่ผู้ฝึกสามารถนำไปเป็นตัวอย่างในการปฏิบัติได้ในเวลาที่ตนเองมีความพร้อมโดยใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ทุกบ้าน สะดวกสำหรับผู้ปฏิบัติจะนำกลับไปฝึกเป็นการส่วนตัวกับหน้าจอโทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
- ระบบ Video Conference คือระบบการประชุมระยะไกล เหมาะสำหรับการประชุมกลุ่มที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการประชุมของผู้บริหารระหว่างสำนักงานใหญ่ ณ ต่างประเทศกับสำนักงานสาขาประเทศต่าง ๆ การนำ เข้ามาใช้ในวงการอุตสาหกรรมนั้นช่วยให้เกิดประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการเดินทาง ประหยัดเวลา ช่วยอำนวยความสะดวก ช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง
- Web Based Training เป็นการฝึกอบรมทางไกลรูปแบบหนึ่งที่มีพื้นฐานมาจากการใช้คอมพิวเตอร์ในการฝึกอบรมโดยสามารถใช้ร่วมกับสื่อประสม เช่น ภาพ เสียง ภาพประกอบเสียง ผู้ฝึกจะมีส่วนร่วมรับผิดชอบควบคุม การเรียนรู้และการปรับปรุงการเรียนรู้ของตนเองโดยผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่เป็นระบบ ตัวอย่างระบบ Web Based Training ท่านสามารถเข้าชมได้คือhttp://home.dsd.go.th/techno
- Computer Assisted Instruction หรือคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรียกย่อ ๆ ว่า CAI หมายถึง วิธีการฝึกอบรม ที่ใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนซึ่ง ออกแบบไว้ เพื่อนำเสนอบทเรียนแทนวิทยากร ผู้ฝึกสามารถเรียนได้ด้วยตนเอง ตามลำดับขั้นตอนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ โดยมีการปฏิสัมพันธ์
( Interactive) ระหว่างผู้เรียน กับ คอมพิวเตอร์ และผู้เรียน
จะได้รับข้อมูลย้อนกลับทันที ตัวอย่าง CAI ทางอุตสาหกรรม สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.ited.kmutnb.ac.th/
- E-Book หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ผู้ฝึกสามารถหาอ่านผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรืออุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์พกพาอื่น ๆ ได้ สำหรับหนังสือ หรือ เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ จะมีความหมาย รวมถึงเนื้อหาที่ถูกดัดแปลงอยู่ในรูปแบบที่สามารถแสดงผลออกมาได้ โดยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ มีลักษณะการ นำเสนอ สอดคล้อง และคล้ายคลึงกับ การอ่านหนังสือทั่วไปในชีวิตประจำวัน แต่จะมีลักษณะพิเศษ คือ สะดวกและรวดเร็ว ในการค้นหา และผู้อ่านสามารถอ่าน พร้อม ๆ กันได้โดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายส่งคืนห้องสมุด เช่นเดียวกับหนังสือในห้องสมุดทั่วไป
เครื่องมือสำหรับ E-Training ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเป็นเพียงเครื่องอำนวยความสะดวกสำหรับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นหัวใจในการเดินทางของอุตสาหกรรม หากเปรียบกับการขับขี่รถที่มีความเร็วสูง จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมและความแข็งแรงให้แก่ผู้ขับขี่อยู่เสมอ เพื่อปิดโอกาสของคำว่า พลาด
แหล่งอ้างอิง
ธนิต โสรัตน์. เข้าถึงได้จาก http://www.tanitsorat.com/
ธนิศ ภู่ศิริ. 2537. เทคโนโลยีและสื่อสารการฝึกอบรม หน่วยที่ 12. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช.
นัทธี จิตสว่าง. เข้าถึงได้จาก http://hrm.siamhrm.com/?name=training&file=readnews&max=54
สถาบันพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยภาคเหนือ. เข้าถึงได้จาก http://www.northeducation.ac.th/etraining/index.php?mod=Message&op=helpdesk
เสน่ห์ โตจุ้ย. 2541. เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษากับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หน่วยที่ 7. สาขาวิชา ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
Educational Inspiration 2030
Easy Talk : Educational Inspriration 2030 โดย ผศ.ดร.อาณัติ รัตนถิรกุล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ จัดโดย นักศึกษาหลักสูตรศึกษาศาสต...
-
Easy Talk : Educational Inspriration 2030 โดย ผศ.ดร.อาณัติ รัตนถิรกุล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ จัดโดย นักศึกษาหลักสูตรศึกษาศาสต...
-
ปัญหาที่ผู้สอนทุกระดับชั้นพบในทุกวันนี้เกิดจากตัวแปรต่าง ๆ ทั้งที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ อาทิเช่นตัวแปรที่เกิดจากการบริหารจัดการ การใช้สื...
-
Stories that occur in our lives. May involve us, both good and bad. Sometimes we can't do anything but only think inside. If action i...