วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

สาเหตุที่เด็กมีโอกาสเสพสื่อที่ไม่พึงประสงค์

สาเหตุที่เด็กมีโอกาสเสพสื่อที่ไม่พึงประสงค์

  1. ผู้ปกครองแสดงแบบอย่างการดำรงชีวิตประจำวัน
    ที่ปราศจากการควบคุมให้เด็กเห็น
  2. ผู้ปกครองปล่อยให้เด็กมีเวลาว่างมากเกินไป
  3. ผู้ปกครองละเลยการกวดขันวินัยให้แก่เด็ก
  4. ผู้ปกครองละเลยการปลูกฝังวินัยในตนเองให้แก่เด็ก
  5. ผู้ปกครองละเลยการอธิบายสิ่งที่เป็นผลดี – ผลเสีย
    ที่สามารถเข้าใจได้ง่ายให้แก่เด็ก
  6. ผู้ปกครองอนุญาตให้เด็กครอบครองวัตถุที่สามารถ
    บรรจุสื่อที่มีความรุนแรงไว้ใช้เป็นส่วนตัว
  7. ผู้ปกครองไม่มีความรู้เพียงพอในการสร้างภูมิคุ้มกัน
    ชีวิตของเด็ก
  8. ผู้ปกครองไม่เคยชี้นำหรือพาเด็กไปในสถานที่ที่
    จรรโลงชีวิต
  9. ผู้ปกครองตาม Lifestyle ของเด็กไม่ทัน
  10. สังคมนอกบ้านของเด็กเป็นสังคมที่ถูกมอมเมา
    จากกระแสความรุนแรง

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Cyber Love Technology


เทคโนโลยีความรัก...จากโลกที่มองไม่เห็นเงา
(Cyber Love Technology)



 

        "คุณมีคู่รักหรือยังครับ" ผมหมายถึงสุภาพบุรุษหรือสุภาพสตรีที่อยู่ในฐานะสามีหรือภรรยาของท่าน รวมทั้งผู้ที่ยังเป็นแฟนกันอยู่ด้วยนะครับ ยินดีอย่างยิ่งถ้าประโยคข้างต้นสามารถเรียกรอยยิ้มที่มุมปากของท่านผู้อ่านได้ ลองคิดถึงตอนที่ท่านกำลังจีบกันใหม่ ๆ ซิครับ ท่านมีความสุขเพียงใดถ้าคู่รักของท่านก็มีใจเช่นกัน ความรักเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ รักกันเถอะครับชีวิตชุ่มชื่น
        ความรักมันมีเทคโนโลยี ท่านผู้อ่านคงฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม อ่านก่อนครับ ที่ผมกล่าวเช่นนี้ใช่ว่าไร้สาระ ผมจะไม่ลงลึกว่าความรักคืออะไรนะครับเนื่องจากทุกท่าน "รักเป็น" กันอยู่แล้ว แต่ผมขอกล่าวถึงคำว่า "เทคโนโลยี" ในภาพกว้าง ๆ ต่อจากนั้นท่านผู้อ่านต้องใช้ลมหายของท่านผูกคำทั้งสองให้เป็นชีวิตของท่านเอง
        มีคำสองคำซึ่งต่างความหมายกันมาประกอบกันเป็นคำเพียงหนึ่งคำ เป็นต้นทางของความหมายที่ยิ่งใหญ่และมีอิทธพลกับการดำรงชีวิตในยุคนี้ เช่นเดียวกับการเดินทางของหัวใจของคนสองคน ต่างเดินทางมาจากคนละที่เพื่อมารวมกันเป็นดวงใจเดียวกันและมีผลต่อต้นทางชีวิตคู่ของคนทั้งสอง
คำทั้งสองคือ"เทคโน" (Techno) และ "โลยี" (Logy) คำว่า "เทคโน" ตีความหมายง่าย ๆ คือ เทคนิคหรือวิธีการต่าง ๆ สำหรับการทำอะไรก็ได้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูง ประหยัด รวดเร็ว เหนื่อยน้อยลง
ยิ้มง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์หรือวัตถุที่มีราคาแพงใด ๆ ทั้งสิ้น พอนึกภาพออกหรือไม่ครับ ยกตัวอย่างเช่นตอนที่ท่านหรือคู่รักของท่านบอกว่า "ผมรักคุณ" คุณหรือเขามีเทคนิคอย่างไร เช่น คุกเข่ามือกุมมือแล้วทำตาเยิ้ม ๆ แบบในหนังสือการ์ตูนหรือมอบช่อดอกลิลลี่สีขาวหอมกรุ่นช่อโต ๆ พร้อมกับคำหวาน ๆ ฟังแล้วยากมากที่จะปฏิเสธ อะไรก็แล้วแต่ นั่นแหละครับ "เทคโน" ส่วนคำว่า "โลยี" หมายถึงความรู้ อาจเป็นความรู้เชิงวิชาการก็ได้ แต่ความรักต้องรู้เขารู้เรา รู้ทิศทาง รู้ความรู้สึก รู้ความต้องการ สารพัดรู้ครับบอกไม่ได้ สรุป "เทคโนโลยี" หมายความว่ารู้ที่จะใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อให้สิ่งที่ท่านทำสำเร็จ ลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีความรักของท่านเป็นอย่างไรครับ
        ในยุคโลกไร้พรหมแดนนี้มีวิธีการต่าง ๆ มากมายที่อำนวยความสะดวกให้คนในยุคนี้สามารถสื่อสารกันได้อย่างไม่จำกัดระยะทาง เวลา เชื้อชาติและภูมิประเทศ ดังจะเห็นได้จากการเกิดเทคโนโลยีการสื่อสารมากมายเช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น ไหน ๆ กล่าวถึงอินเทอร์เน็ตแล้วขอแวะคุยซักหน่อย
        คอมพิวเตอร์ถูกกล่าวขานให้เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความสามารถรอบด้านตั้งแต่เริ่มนำ
กระแสไฟฟ้าเข้ามาเป็นพลังงาน คนสร้างมันให้สามารถคิดเลขที่มีความซับซ้อนได้รวดเร็วอย่างที่คนไม่สามารถคิดได้ ต่อจากนั้นมันก็ถูกคนสร้างให้ทำอะไรได้อีกหลายอย่างมาก ใครจะคิดว่าคอมพิวเตอร์เมื่อผ่านมาหลายสิบปีจะเป็นเครื่องมือที่ทำให้คนมาแต่งงานกันได้ !
        จากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความสามารถมาจนถึงระบบเครือข่ายที่ถูกพัฒนาให้คอมพิวเตอร์ที่ทำงานเพียงลำพัง ( Stand Alone ) สามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ซึ่งอยู่ที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้เหมือนกับเป็นเครื่องเดียวกัน ผู้ใช้งานไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ใช้งานอีกฝากหนึ่งของการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือคู่สนทนาจากการ Chat รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ขณะที่สนทนากันอยู่นั้นเงาของเขาหรือเธอทอดไปทางทิศใดหรือว่ามีเงาหรือไม่ หมายความว่าบุคคลที่กำลังสนทนาอยู่ด้วยนั้นกำลังสื่อสารในสิ่งที่เป็นจริงหรือเสแสร้งกันแน่ นี่คือ "โลกที่มองไม่เห็นเงา"
        Chat เป็นเทคโนโลยีที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนองกระบวนการทางสังคมของมนุษย์ หนุ่ม - สาวจำนวนไม่น้อยมีโอกาสได้ Chat เพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้กับชีวิต คุณเคยคุยกับใครสักคนหนึ่งโดยบังเอิญแล้วรู้สึกถูกคอบ้างหรือไม่ครับ บรรยากาศเหมือนกันเลยครับ แต่ต่างจากการคุยทางวาจาก็คือ การ Chat นั้นใช้คอมพิวเตอร์คุยโดยการพิมพ์ที่แป้นพิมพ์เป็นหลัก เมื่อ Chat ต่อเนื่องสักระยะหนึ่ง ถูกใจกันก็สามารถสานความสัมพันธ์ต่อ จากไร้เงาก็พัฒนามาเป็นนัดแรกพบที่เห็นเงาจริง ๆ ถ้าระยะทางไม่เป็นอุปสรรค
Chat จึงเป็นทคโนโลยีสานความรักให้เขาและเธอเริ่มต้นความรักได้อย่างน่าทึ่ง
ในทางกลับกันมักจะได้ยินข่าวทางสื่อมวลชนอยู่เนือง ๆ กับการถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพที่ใช้การ Chat เป็นเส้นทางในการสร้างปัญหาให้กับสังคม เนื่องจากการอ่อนประสบการณ์ของผู้ใช้บางคนซึ่งสมัครใจเข้าไปอยู่ในโลกไร้เงาแบบรู้ตัว
เทคโนโลยีถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกสบายและความเจริญแห่งตนแม้เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงเพียงใด หากผู้ใช้ไม่คำนึงถึงความเหมาะสมแห่งตนแล้วก็ไม่อาจสร้างความยิ่งใหญ่ได้ และที่ร้ายแรงกว่านั้นหากผู้ใช้ "เทคโนโลยี" ไร้ซึ่งคุณธรรมและจริยธรรมแล้ว ความหายนะจะบังเกิดแก่ผู้ใช้เทคโนโลยีเองอย่างคาดไม่ถึง

 

เมธี พิกุลทอง

E-Training นวัตกรรมเพื่อการพัฒนา


E-Training นวัตกรรมเพื่อการพัฒนา

เมธี พิกุลทอง สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
http://www.pigul.net
   
    รถยนต์ขับเคลื่อนไปข้างหน้า ด้วยความเร็ว 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันช่างรวดเร็ว รุนแรง และน่าสะพรึงกลัว หากรถยนต์คันนี้ถูกออกแบบด้วยวิธีการคิดที่แยบยล ทุกส่วนของรถได้รับการใส่กลไกที่มีการป้องกันแรงเสียดทาน การสั่นสะเทือน ลู่ลมอย่างน่าอัศจรรย์ใจ และอีกหลาย ๆ ประการที่จะทำให้รถคันนี้ไม่ฉีกขาดเป็นชิ้น ๆ บนถนนที่ทอดยาวไกลสุดสายตา ผู้เขียนเชื่อว่าเราสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องจักรชิ้นนี้ได้อย่างน่าประทับใจ


 

    สุดยอดยนตร์กรรมได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นมารับใช้มนุษย์ชาติ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่พาร่างกายให้ย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งตามแต่ใจจะปรารถนา แต่สิ่งที่ต้องย้อนถามผู้ขับขี่คือ ท่านมีความพร้อมที่จะรับมือกับยนตร์กรรมคันนี้แล้วเพียงใด ท่านรู้หรือไม่ว่าการเดินทางที่ 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมงมีวิธีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ท่านจะหายใจอย่างไร ท่านจะวางสรีระอย่างไร ท่านจะบอกคนข้าง ๆ ของท่านอย่างไรถ้าหาก พลาด

 

    ท่านผู้อ่านคงมีคำตอบอยู่ในใจเกี่ยวกับเรื่องที่ปรากฏในย่อหน้าข้างต้น แต่ในชีวิตการทำงานจริงนั้น องค์กรก็เปรียบได้กับรถยนต์คันนั้น มันถูกสร้างขึ้นมาให้ดำเนินกิจการต่าง ๆ โดยมีมนุษย์เป็นผู้ควบคุมให้เดินทางไปข้างหน้าได้อย่างปลอดภัย อาจมีอุปสรรคบ้าง แต่มิได้หมายความว่ากิจการจะยุติลงอย่างน่าเสียดาย โดยปราศจากการเตรียมการป้องกันและแก้ปัญหา

 

    บทความที่ท่านกำลังอ่านอยู่นี้จะพาท่านเดินทางไปสู่เป้าหมายที่ว่า เรามีวิธีการรับมือกับสภาวะต่าง ๆ ของการดำเนินกิจการขององค์กรโดยมีมนุษย์เป็นผู้ควบคุมทิศทางอย่างไร อาจกล่าวได้ว่า "ทรัพยากรมนุษย์เป็นหัวใจในการเดินทางของอุตสาหกรรม " ดังนั้นเราต้องให้ความสำคัญกับหัวใจของอุตสาหกรรม ซึ่งฝังตัวอยู่ในส่วนต่าง ๆ แล้วอะไรล่ะเป็นวิธีการที่เหมาะสม คำตอบคือ การพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
   
 


 

    การพัฒนาหัวใจในการเดินทางของอุตสาหกรรมนั้นมีหลากหลายวิธีอาทิเช่น การสัมมนา (Seminar) การศึกษาจากกรณีตัวอย่าง (Case Study) การสาธิต (Demonstration) การระดมสมอง (Brain Storming) การประชุมอภิปราย (Conferencing) การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ (Work Shop) เป็นต้น ซึ่งการจะเลือกใช้วิธีการใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็น ระยะเวลา สถานการณ์ที่องค์กรต้องการ กิจกรรมเหล่านี้รวมเรียกว่า การพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ (เสน่ห์ : 2541)

 

    ในฐานะที่ผู้เขียนทำหน้าที่นักเทคโนโลยีการศึกษาซึ่งมีหน้าที่ในการจัดการให้เกิดการศึกษาด้วยวิธีการต่าง ๆ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การพัฒนาหัวใจในการเดินทางของอุตสาหกรรมนั้นก็ถือเป็นภารกิจที่ก่อให้เกิดการศึกษาเช่นเดียวกับการศึกษาทั้งในระบบโรงเรียน นอกระบบโรงเรียนและตามอัธยาศัย เพียงแต่จัดให้เกิดการศึกษาเพื่อนำความรู้ไปใช้ในสถานประกอบการ และแทนที่ผู้รับการศึกษาจะเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ก็เป็นผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบการนั้น ๆ

 

    โดยปกติการพัฒนาหัวใจในการเดินทางของอุตสาหกรรมมักทำกันอยู่ 3 แบบ (ธนิศ : 2537) ได้แก่

  1. การปฐมนิเทศ เป็นการฝึกอบรมบุคลากรใหม่ขององค์กรให้ทราบถึงนโยบาย โครงสร้างการบริหาร กฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อการสร้างเข้าใจให้ตรงกันและมีทัศนคติที่ดีแก่องค์กร รวมทั้งการพาชมส่วนงานต่าง ๆ
  2. การฝึกอบรมในขณะปฏิบัติงาน หลังจากที่ได้รับการบรรจุ แต่งตั้งให้ปฏิบัติงานในองค์กรแล้ว เมื่อปฏิบัติงานไปได้ระยะหนึ่ง จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาความรู้ ทักษะให้แก่ผู้ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง อาจอยู่ในลักษณะของการเรียนงานที่มีความยาก ซับซ้อนมากขึ้นจากรุ่นพี่ เพื่อสร้างความพร้อมตลอดเวลาเนื่องจากการพัฒนาของเทคโนโลยี
  3. การหมุนเวียนงานเป็นการไปฝึก ณ หน่วยงานอื่น ๆ ที่มีความทันสมัยกว่า เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ปฏิบัติงานมีความรอบรู้ในงาน มีทักษะในการควบคุมและจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ได้ดี

 

    ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใดก็ตามที่ทำให้ผู้ปฏิบัติงานมีความรู้ในงานมากขึ้น มีเจตนคติที่ดีต่องานและองค์กร มีทักษะการทำงานที่คงทน ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้บริหารองค์กรต่างปรารถนาให้เกิดแก่บุคลากรในองค์กรทั้งสิ้น

 

    ในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทกับทุกวงการ โดยเฉพาะวงการอุตสาหกรรมนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องก้าวไปพร้อมกับเทคโนโลยี ดังนั้นจึงมีเทคนิคการพัฒนาหัวใจในการเดินทางของอุตสาหกรรมโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อน หลายท่านคุ้นเคยกับคำว่า E เป็นอย่างดี จากการใช้งานเครื่องมือสื่อสารหรือเครื่องใช้สำนักงานอิเล็คทรอนิคส์ อาทิเช่น E-mail , E-office , E-Commerce , EDI (Electronic Data Interchange) เป็นต้น ใช่แล้ว E ย่อมาจากคำว่า "Electronic" หมายถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่ใช้อุปกรณ์สื่อสารอิเล็คทรอนิคส์เข้ามาเป็นสื่อในการทำงาน ผู้เขียนขอกล่าวเกี่ยวกับอักษรตัว E สักเล็กน้อยเพื่อความเป็นรูปธรรมสำหรับผู้อ่านบางท่าน


    ยกตัวอย่างเช่น ในการสื่อสารระหว่างองค์กรนั้นเมื่อย้อนหลังไปสัก 20 ปี เราใช้โทรศัพท์ในการติดต่อ ประสานงานระหว่างหน่วยงาน ระหว่างโรงงาน ส่งผลให้ค่าใช้โทรศัพท์มีราคาสูง แต่พอเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาท เราก็ใช้วิธีการประสานงานผ่าน Instant Message เช่น MSN ซึ่งสามารถคุยกันได้ทั้งการพิมพ์ตัวอักษร เสียงพูด เสียงหัวเราะ มองเห็นหน้ากันได้ด้วย ที่สำคัญสามารถส่งหรือแลกเปลี่ยนไฟล์เอกสารระหว่างสำนักงานหรือระหว่างหน่วยงานได้อย่างรวดเร็ว ในการออกเอกสารใบสั่งซื้อ ใบส่งของ หรือเอกสารพิธีการต่าง ๆ ก็เช่นเดียวกัน ในปัจจุบันมีแบบฟอร์มมาตรฐานที่เรียกว่าใบกำกับตู้อิเล็กทรอนิกส์ (E-CONTAINER ) ที่ใช้งานร่วมกันหลาย ๆ หน่วยงาน (ธนิต,
http://www.tanitsorat.com) ซึ่ง Online ตลอดเวลา สามารถติดตามสินค้าได้ตลอดเวลาว่าขณะนี้เดินทางอยู่ส่วนใดของโลกและสามารถส่งสินค้าได้ทันเวลาที่ตกลงกันได้หรือไม่ และติดปัญหาใด จากตัวอย่างข้างต้นผู้ปฏิบัติงานจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อสามารถใช้งานได้ดีแล้วมักจะรู้สึกสนุกในการทำงาน เป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดได้ระดับหนึ่ง


 

    ตัวอย่างที่ 2 เมื่อมีการนำสำนักงานอัตโนมัติเข้ามาใช้ในการทำงาน โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจำเป็นต้องฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด หากมีปัญหาสุดความสามารถที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ จุดนั้นจะแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง องค์กรก็ต้องจัดเตรียมผู้ช่วย Online (Help desk) ไว้รับมือกับปัญหาอย่างทันท่วงทีโดยการ Hack เข้ามาแก้ไขหรือควบคุมสั่งการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีปัญหาจากระยะไกล (Remote Control) ให้ทำงานได้ตามเดิม โดยใช้คุณสมบัติของ Malware (คำสั่งที่คอมพิวเตอร์ทั่วไปไม่ต้องการเช่น ไวรัส , Spyware ) เข้ามาใช้ประโยชน์

 

    จากทั้ง 2 ตัวอย่างนั้นเป็นวิธีการที่ทุกวงการได้นำมาใช้อย่างกว้างขวางและประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว แต่ก็ยังมีคำถามต่อเนื่องว่า แล้วเราจะฝึกอบรมให้แก่ผู้ปฏิบัติงานได้อย่างไร หรือผู้บริหารจะใช้อะไรมาช่วยให้การอบรมเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น คำตอบคือ เราต้องมีเครื่องมือ การใช้ E เข้ามาช่วยนั้นเป็นวิธีการโดยมีแนวคิดว่า "ทำอย่างไรจึงจะสามารถจัดประสบการณ์ทางอาชีพให้แก่ผู้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวดเร็วที่สุด ประหยัดที่สุด" โดยเรียกเทคนิคนี้ว่า E-Training

 

    E-Training หมายถึง กระบวนการฝึกอบรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นกระบวนการจัดการฝึกทักษะ เพิ่มพูนสาระความรู้ ที่เน้นให้ผู้เข้ารับการอบรมนั้นเรียนรู้ด้วยตนเอง ผู้เข้าอบรมมีอิสระในการเข้าศึกษา เรียนรู้ตามเวลา โอกาสที่ผู้ฝึกอบรมต้องการ โดยเนื้อหาขององค์ความรู้จะถูกออกแบบมาให้ศึกษาเรียนรู้ได้โดยง่าย ในรูปแบบมัลติมีเดีย ซึ่งประกอบด้วยสื่อที่เป็นข้อความ รูปภาพ หรืออาจมีเสียง รวมถึงภาพเคลื่อนไหว (นัทธี, เข้าถึงได้จาก http://hrm.siamhrm.com)
    
    ในระบบ E-Training ผู้เข้าฝึกอบรมจะมีวิทยากรที่ปรึกษาประจำรายวิชาคอยให้คำปรึกษาในการอบรมตลอดหลักสูตร นอกจากนี้ผู้เข้าอบรมยังสามารถติดต่อปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้เช่นเดียวกับการอบรมในห้องปกติ โดยอาศัยเครื่องมือการติดต่อสื่อสารที่ทันสมัย สำหรับทุกคนที่สามารถศึกษาและเรียนรู้ได้ทุกเวลา และทุกสถานที่ (สถาบันพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยภาคเหนือ , http://www.northeducation.ac.th/etraining/index.php)

 

    จากความหมายข้างต้นผู้อ่านก็พอจะรู้ได้ว่า E-Training เป็นการฝึกอบรมผ่านสื่อที่ไม่ใช่ตัวบุคคลโดยตรง แต่เป็นเครื่องมือสื่อสารอิเล็คทรอนิคส์ซึ่งมีการควบคุมกระบวนการฝึกโดยวิทยากร ซึ่งอาจไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทยก็ได้ ซึ่งอาจกล่าวถึงข้อดีของ E-Training ได้ดังนี้
  1. สามารถควบคุมลำดับในของการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. สามารถประเมินผลได้อย่างตรงไปตรงมา
  3. ผู้รับการอบรมสามารถเข้าเรียนรู้ได้โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่
  4. E - Training จะสามารถตอบสนองความต้องการในการพัฒนาตนเองได้อย่างทั่วถึง
  5. ผู้รับการอบรม ซึ่งจะต้องค้นคว้า ฝึกทักษะด้วยตนเอง เป็นหลัก
  6. ประหยัดเวลาและงบประมาณ

     
    เครื่องมือที่ใช้สำหรับ E-Training นั้นมีหลากหลายมาก แต่ในบทความฉบับนี้จะขอกล่าวถึงเครื่องมือที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันตามสถานศึกษาและสถานประกอบการต่าง ๆ ซึ่งเป็นการรับมือกับการแข่งขันที่ดุเดือด ดังนี้


  • ห้องปฏิบัติการ Multimedia เพื่อการฝึกภาษา สามารถเก็บคำตอบและวิเคราะห์คำตอบของผู้เรียนได้ เครื่องมือชิ้นนี้เหมาะสมมากสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการความสามารถทางด้านภาษาของผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะองค์กรที่มีหน่วยงานหลักอยู่ต่างประเทศหรือต้องประสานงานกับต่างประเทศ

  • วีดิทัศน์เพื่อการฝึกอบรม เป็นสื่ออิเล็คทรอนิคส์ที่ผู้ฝึกสามารถนำไปเป็นตัวอย่างในการปฏิบัติได้ในเวลาที่ตนเองมีความพร้อมโดยใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ทุกบ้าน สะดวกสำหรับผู้ปฏิบัติจะนำกลับไปฝึกเป็นการส่วนตัวกับหน้าจอโทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล





  • ระบบ Video Conference คือระบบการประชุมระยะไกล เหมาะสำหรับการประชุมกลุ่มที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการประชุมของผู้บริหารระหว่างสำนักงานใหญ่ ณ ต่างประเทศกับสำนักงานสาขาประเทศต่าง ๆ การนำ เข้ามาใช้ในวงการอุตสาหกรรมนั้นช่วยให้เกิดประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการเดินทาง ประหยัดเวลา ช่วยอำนวยความสะดวก ช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง

  • Web Based Training เป็นการฝึกอบรมทางไกลรูปแบบหนึ่งที่มีพื้นฐานมาจากการใช้คอมพิวเตอร์ในการฝึกอบรมโดยสามารถใช้ร่วมกับสื่อประสม เช่น ภาพ เสียง ภาพประกอบเสียง ผู้ฝึกจะมีส่วนร่วมรับผิดชอบควบคุม การเรียนรู้และการปรับปรุงการเรียนรู้ของตนเองโดยผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่เป็นระบบ ตัวอย่างระบบ Web Based Training ท่านสามารถเข้าชมได้คือhttp://home.dsd.go.th/techno


     


     


     


     
  • Computer Assisted Instruction หรือคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรียกย่อ ๆ ว่า CAI หมายถึง วิธีการฝึกอบรม ที่ใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนซึ่ง ออกแบบไว้ เพื่อนำเสนอบทเรียนแทนวิทยากร ผู้ฝึกสามารถเรียนได้ด้วยตนเอง ตามลำดับขั้นตอนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ โดยมีการปฏิสัมพันธ์
    ( Interactive) ระหว่างผู้เรียน กับ คอมพิวเตอร์ และผู้เรียน
    จะได้รับข้อมูลย้อนกลับทันที ตัวอย่าง CAI ทางอุตสาหกรรม สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.ited.kmutnb.ac.th/

  • E-Book หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ผู้ฝึกสามารถหาอ่านผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรืออุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์พกพาอื่น ๆ ได้ สำหรับหนังสือ หรือ เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ จะมีความหมาย รวมถึงเนื้อหาที่ถูกดัดแปลงอยู่ในรูปแบบที่สามารถแสดงผลออกมาได้ โดยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ มีลักษณะการ นำเสนอ สอดคล้อง และคล้ายคลึงกับ การอ่านหนังสือทั่วไปในชีวิตประจำวัน แต่จะมีลักษณะพิเศษ คือ สะดวกและรวดเร็ว ในการค้นหา และผู้อ่านสามารถอ่าน พร้อม ๆ กันได้โดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายส่งคืนห้องสมุด เช่นเดียวกับหนังสือในห้องสมุดทั่วไป

 

    เครื่องมือสำหรับ E-Training ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเป็นเพียงเครื่องอำนวยความสะดวกสำหรับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นหัวใจในการเดินทางของอุตสาหกรรม หากเปรียบกับการขับขี่รถที่มีความเร็วสูง จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมและความแข็งแรงให้แก่ผู้ขับขี่อยู่เสมอ เพื่อปิดโอกาสของคำว่า พลาด


 

แหล่งอ้างอิง

 

ธนิต โสรัตน์. เข้าถึงได้จาก http://www.tanitsorat.com/

 

ธนิศ ภู่ศิริ. 2537. เทคโนโลยีและสื่อสารการฝึกอบรม หน่วยที่ 12. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์
    มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช.


 

นัทธี จิตสว่าง. เข้าถึงได้จาก http://hrm.siamhrm.com/?name=training&file=readnews&max=54

 

สถาบันพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยภาคเหนือ. เข้าถึงได้จาก     http://www.northeducation.ac.th/etraining/index.php?mod=Message&op=helpdesk


 

เสน่ห์ โตจุ้ย. 2541. เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษากับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หน่วยที่ 7. สาขาวิชา    ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช.

Educational Inspiration 2030

Easy Talk : Educational Inspriration 2030 โดย ผศ.ดร.อาณัติ รัตนถิรกุล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ จัดโดย นักศึกษาหลักสูตรศึกษาศาสต...